ต่อมาเมื่อมีการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ก็เกิดการปฏิวัติการสื่อสารขึ้นโดยมนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเดินทางไปหากัน ไม่ต้องตีเกราะเคาะไม้ ไม่ต้องส่งสัญญาณควัน ไม่ต้องใช้ม้าเร็ว ไม่ต้องใช้นกพิลาบ เมื่อมีการผลิตกระแสไฟฟ้าได้การสื่อสารระยะไกลก็ได้มีการพัฒนาตามเทคโนโลยีใหม่ โดยแซมมวลมอร์ส นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน เป็นคนแรกที่คิดวิธีการสื่อสารสมัยใหม่(ในตอนนั้น)โดยการส่งสัญญาณไปตามสาย มอร์สได้กำหนดรหัสขึ้นมาใช้ในการสื่อสาร ด้วยการส่งกระแสไฟฟ้าให้ไหลไปตามสายไฟฟ้า และกำหนดให้มีจังหวะของการไหลยาวบ้างสั้นบ้างเป็นจังหวะ แล้วนัดหมายกับฝ่ายรับปลายทางว่ารหัสแต่ละตัวหมายถึงตัวอักษรตัวใด เช่น กระแสไฟฟ้าที่ไหลเป็นจังหวะ ยาว - ยาว - สั้น หมายถึง ตัวอักษร “ ก ” เป็นต้น การส่งสัญญาณในรูปรหัสนี้เรียกว่าการส่งโทรเลข ท่านผู้อ่านที่มีอายุตั้งแต่ 40 ขึ้นไป คงเคยส่งโทรเลข การส่งโทรเลขในยุคแรกๆเป็นการส่งข้อความในรูปของรหัส สั้น-ยาว ดังที่กล่าวไปแล้ว รหัสที่ใช้ในการส่งโทรเลขเรียกว่ารหัสมอร์ส
รหัสที่มอร์สกำหนดขึ้นมาโดยใช้สัญญาณเพียงสองลักษณะเท่านั้นคือสัญญาณไฟสั้นกับ ยาว ซึ่งจะแทนด้วย . กับ - ( จุด กับ ขีด ) จุด เกิดจากการกดคันเคาะในช่วงเวลาสั้นๆ ส่วนขีดเกิดจากการกดคันเคาะแช่ไว้เป็นเวลาที่นานกว่า มอร์สนำเอารหัสจุดกับขีดนี้มาผสมกันแล้วกำหนดเป็นรหัสสัญญาณโทรเลขของ ตัวอักษรต่างๆขึ้นมา รหัสมอร์สของสัญญาณโทรเลขภาษาไทยเป็นดังรายละเอียดข้างล่างนี้

รูปที่ (6) รหัสมอร์สภาษาไทย
ความคิดเห็นผู้ทำ
รหัสมอร์สถือเป็นการสื่อสารที่รวดเร็วอย่างหนึ่ง แต่ปัญหาของการส่งรหัสมอร์สคือไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้ผู้รับสารอาจจะสื่อสารข้อความผิดได้ และปัจจุบันการใช้รหัสมอร์สไม่ค่อยมีปรากฎให้เห็นอยู่แล้ว